สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยจัดเวทีสัมมนา EV100 แสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอังกฤษ พร้อมอบรมเมืองอัจฉริยะมุ่งสู่เวที COP26
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยจัดเวทีสัมมนา EV100 แสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอังกฤษเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเมืองอัจฉริยะกับประเทศไทย
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านมลพิษทางอากาศและการจราจรติดขัด การรักษาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเมืองจึงกลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนานาชาติที่นับวันปัญหาสิ่งแวดล้อมจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในระดับนานาชาติ มีการจัดประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า COP (Conference of the Parties) ในทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำของแต่ละประเทศได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและนโยบายว่าด้วยสิ่งแวดล้อมในระดับโลก
และในปีนี้สหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม COP ครั้งที่ 26 ในช่วงปลายปี ณ เมืองกลาสโกว โดยมีประเด็นหลักที่ต้องการผลักดัน 5 ด้านได้แก่ การส่งเสริมการปรับตัวและความยืดหยุ่น การแก้ปัญหาโดยใช้แนวทางธรรมชาติ การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ท้องถนนและภาคขนส่งที่สะอาด และ การเงิน
เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การบริหารจัดการเมืองเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด และภาคขนส่งที่สะอาด ตามแนวทางของ COP26 อีกด้วย สหราชอาณาจักรมีบทบาทในการผลักดันการขับเคลื่อนสู่เมืองแห่งอนาคตผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศไทย ช่วงปลายปีพ.ศ. 2563 สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เปิดตัว “หนังสือคู่มือเมืองอัจฉริยะ” หรือ Smart City Handbook เพื่อวางกรอบและหาจุดร่วมว่าด้วยกรณีศึกษาจากสหราชอาณาจักร และโครงการที่ดำเนินอยู่ในประเทศไทยที่เทคโนโลยีจากสหราชอาณาจักรสามารถเข้ามาตอบโจทย์ได้ หลังจากนั้นได้มีกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องด้วยการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในสามจังหวัดหลักในภาคต่าง ๆ ซึ่งได้จัดไปแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดขอนแก่น
ริชาร์ด พอร์ทเตอร์ ที่ปรึกษาพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่งและยานยนต์ถือเป็นส่วนที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก โดยคิดเป็น 10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดและนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“สหราชอาณาจักรได้ประกาศลงทุนกว่า 2.5 พันล้านปอนด์เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน รวมทั้งด้วยการให้ทุนสนับสนุนยานยนต์แบบเสียบชาร์จไฟ และโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จไฟฟ้า
ก้าวสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรเพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ คือคำมั่นของเราที่จะเลิกขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในปี 2030”
ผศ.ดร.อุเทน สุปัตติ อุปนายกฯ ฝ่ายวิชาการ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า “ความกังวลต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับโลกที่เพิ่มสูงขึ้นชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
เป้าหมายสู่ยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle) 100% ของไทยภายในปี 2035 จะช่วยนำทางสู่การพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงานใหม่ การส่งเสริมชุมชนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น รวมทั้งการลดมลพิษทางอากาศอย่างมีนัยยะสำคัญและยั่งยืน”
สำหรับการประชุมครั้งสุดท้ายที่จังหวัดชลบุรี ถือเป็นวาระพิเศษที่ทางสถานทูตฯ จะจัดงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วม โดยจะผลักดันแคมเปญยานยนต์ไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ ร่วมกับการสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) เนื่องจากยานยนต์คาร์บอนต่ำจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์คาร์บอนต่ำนั้นจำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จไฟฟ้า จึงต้องเกิดการพัฒนาเมืองแบบควบคู่กัน นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวแคมเปญ EV100 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยมุ่งส่งเสริมความร่วมมือกับเอกชนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในด้านยานยนต์และโครงสร้างพื้นฐาน
EV100 คือ แคมเปญที่มุ่งทำงานร่วมกับบริษัทและเอกชน เพื่อให้คำมั่นสัญญาต่อการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ผ่านการสร้างอุปสงค์ ผลักดันนโยบายร่วมกับภาครัฐ และ ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคร่วมกัน เพื่อให้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเป็น New Normal แห่งอนาคตอันใกล้นี้
ในงานครั้งนี้ได้มีการจัดเสวนาเรื่อง “การส่งเสริมยานยนต์คาร์บอนต่ำกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ” โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐของไทย ซึ่งรวมถึงสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ผู้แทนจากเมืองพัทยา และมุมมองจากต่างประเทศโดยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษและโครงการพัฒนาสหประชาชาติ (UNDP)
นอกจากนี้ สถานทูตฯ ยังได้ร่วมกับบริษัทชั้นนำเพื่อนำเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากสหราชอาณาจักรมาจัดแสดงให้กับผู้ร่วมงานได้ยลโฉมยานยนต์ต่าง ๆ ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์จากัวร์ I-PACE รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมแบรนด์อังกฤษ จักรยานยนต์ไฟฟ้าจาก EVRiderz ซึ่งเป็นแอพลิเคชั่นเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีเป้าหมายจะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ในอนาคต รวมถึงรถแท็กซี่สีน้ำเงินสุดคลาสสิคจาก ทาง Asia CABB จากรถต้นแบบ “ลอนดอนแท็กซี่” รถแท็กซี่รูปทรงรถม้าสุดคลาสสิคเอกลักษณ์ความปลอดภัยแห่งท้องถนนกรุงลอนดอนกว่าเกือบศตวรรษ และสุดท้ายคือการผสานเทคโนโลยีแผ่นโซลาร์ยืดหยุ่นที่มีน้ำหนักเบาจากบริษัท Verditek Solar ของอังกฤษเข้ากับรถตุ๊กตุ๊กจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
ในขณะเดียวกัน แม้ว่าการจัดงานภายใต้การประชุมเชิงปฏิบัติการในจังหวัดตัวแทนทั้งสามจังหวัดจะจบลงไป ความมุ่งมั่นและความร่วมมือในด้านเมืองอัจริยะจะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้โครงการ Tech Export Academy ที่สหราชอาณาจักรได้เลือกประเทศไทยเป็นเป้าหมายหนึ่งเดียวสำหรับการมาเยือนผ่านการประชุมออนไลน์ของบริษัทอังกฤษที่เชี่ยวชาญทางด้านเมืองอัจฉริยะกว่า 30 บริษัทซึ่งจะมีขึ้นภายในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลดหนังสือคู่มือได้ที่ smart city handbook.
Updates to this page
เผยแพร่เมื่อ 6 เมษายน 2021อัปเดตล่าสุดเมื่อ 7 เมษายน 2021 + show all updates
-
Added translation
-
First published.