สหราชอาณาจักรประกาศรวมกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ ตั้งกระทรวงใหม่ "กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนา"
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ว่าจะรวมกระทรวงการต่างประเทศ (Foreign and Commonwealth Office) และกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ (Department for International Development) ของสหราชอาณาจักรเข้าด้วยกัน
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ว่าจะรวมกระทรวงการต่างประเทศ (Foreign and Commonwealth Office) และกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ (Department for International Development) ของสหราชอาณาจักรเข้าด้วยกัน ตั้งชื่อใหม่เป็น “กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนา” (Foreign, Commonwealth and Development Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อบูรณาการงานด้านนโยบายต่างประเทศและการพัฒนาระหว่างประเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานด้านการต่างประเทศทั้งหมดของสหราชอาณาจักรเป็นเอกภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษจะเริ่มดำเนินการทันทีเพื่อตั้งกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาให้ได้ในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้บริหารกระทรวงใหม่
การรวมกระทรวงครั้งนี้สหราชอาณาจักรตั้งเป้ายกระดับบทบาทของประเทศในเวทีโลก ขณะที่สหราชอาณาจักรกำลังฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโคโรนา และกำลังเตรียมการเพื่อขึ้นเป็นประธานกลุ่มประเทศจี 7 รวมทั้งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP26 ในปีหน้า
ภายใต้กระทรวงใหม่ โครงการความช่วยเหลือต่าง ๆ ของสหราชอาณาจักรจะเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายต่างประเทศที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะมีอำนาจตัดสินใจด้านงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์นโยบายการต่างประเทศ โดยใช้ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และหลักฐานต่าง ๆ ที่ทำให้ปัจจุบันสหราชอาณาจักรได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการให้ความช่วยเหลือพัฒนาระหว่างประเทศ
สหราชอาณาจักรเป็นเพียงประเทศเดียวในกลุ่มจี 7 ที่ใช้งบประมาณถึงร้อยละ 0.7 ของรายได้ประชาชาติ (GNI) ไปกับการพัฒนาในต่างประเทศ และรัฐบาลสหราชอาณาจักรยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามเป้าหมายนี้ต่อไปอย่างจริงจัง โดยมีการระบุไว้ในกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวว่า:
นี่เป็นช่วงเวลาที่เราต้องใช้ทรัพยากรในชาติทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือและพัฒนา ไปจนถึงความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองสิ่งที่เราให้ความสำคัญและค่านิยมที่เรายึดถือในต่างประเทศ
และวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุวัตถุประสงค์นี้ก็คือการตั้งกระทรวงใหม่ที่จะมีหน้าที่ดูแลบทบาทของสหราชอาณาจักรในเวทีโลกเพื่อใช้โอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายกรัฐมนตรียังประกาศด้วยว่า ในอนาคตผู้แทนการค้าของสหราชอาณาจักรประจำประเทศต่าง ๆ จะทำงานภายใต้การนำของเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศนั้น ๆ เพื่อให้การทำงานในต่างประเทศมีเอกภาพยิ่งขึ้น
รายละเอียดวัตถุประสงค์ของกระทรวงใหม่จะกำหนดให้สอดคล้องกับผลการประเมินนโยบายต่างประเทศแบบบูรณาการ ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ การประเมินแบบบูรณาการดังกล่าวเป็นการประเมินผลการดำเนินงานด้านการต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น โดยประเมินครอบคลุมนโยบายการต่างประเทศ กลาโหม และการพัฒนา
แหล่งที่มา
กรุณาคลิกลิงค์นี้
Updates to this page
เผยแพร่เมื่อ 16 มิถุนายน 2020อัปเดตล่าสุดเมื่อ 17 มิถุนายน 2020 + show all updates
-
Added translation
-
First published.